พล.พัฒนา 1 นำสับปะรดจากโครงการ "รวมพลัง ไทยช่วยไทย" แจกให้กับ ปชช

วันนี้ 12 มิ.ย.61 พ.อ.มาโนชญ์ รัตนเลขา รองผู้บัญชาการกองพลพัฒนาที่ 1 เป็นผู้แทน พล.ต.เจษฎา เปรมนิรันดร ผู้บัญชาการกองพลพัฒนาที่ 1 ในการมอบสับปะรดที่ได้จากโครงการ รวมพลัง ไทยช่วยไทย เพื่อช่วยเหลือบรรเทาความเดือดร้อนให้กับเกษตรกรผู้ปลูกสัปปะรด ให้กับวัดและโรงเรียน ในพื้นที่ อ.เมือง จ.ราชบุรี จำนวน 8 แห่ง ประกอบด้วย วัดนาหนอง จำนวน 21 กก., โรงเรียนวัดนาหนอง จำนวน 33 กก., วัดอรุณรัตนคีรีจำนวน 12 กก., โรงเรียนวัดอรุณรัตนคีรี จำนวน 18 กก., วัดห้วยหมู จำนวน 21 กก., โรงเรียนวัดห้วยหมู จำนวน 185 กก., วัดห้วยไผ่ จำนวน 9 กก., โรงเรียนวัดห้วยไผ่ จำนวน 244 กก. รวมทั้งสิ้น 545 กก. ซึ่งสับปะรดดังกล่าว ทาง พล.พัฒนา 1 ได้ดำเนินการตามนโยบาย มทภ.1 ด้วยการจัดซื้อสับปะรดจากเกษตรกร ในพื้นที่ อ.สวนผึ้ง จ.ราชบุรี ที่ได้รับผลกระทบจากราคาผลผลิตตกต่ำในโครงการ "รวมพลัง ไทยช่วยไทย"

ทั้งนี้ในปี 2561 ผลผลิตสับปะรดโรงงานออกสู่ตลาดเป็นปริมาณมาก เนื่องจากในพื้นที่ภาคกลาง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในพื้นที่ของจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ และจังหวัดใกล้เคียง มีการขยายพื้นที่ปลูกสับปะรดเพื่อป้อนเข้าโรงงานเป็นจำนวนมาก ประกอบกับสภาพอากาศที่เอื้ออำนวยในการผลิต โดยในปีนี้มีเกษตรกรผู้ปลูกสับปะรด จำนวน 12,647 ราย มีพื้นที่การผลิต 447,328 ไร่ เป็นพื้นที่เก็บเกี่ยว 232,610 ไร่ และผลผลิตทั้งปีคาดการณ์ประมาณ 995,570 ตัน ส่งผลให้สับปะรดมีผลผลิตล้นตลาด ซึ่งปัจจุบันมีปริมาณสับปะรดผลสดที่โรงงานไม่สามารถรองรับได้ มีจำนวนถึง 22,000 ตัน

ทางผู้บัญชาการทหารบก จึงได้สั่งการให้ หน่วยขึ้นตรงของกองทัพบก, กองทัพภาค, กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค และ กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในจังหวัด ประสานงานกับทุกภาคส่วน เพื่อช่วยเหลือบรรเทาความเดือดร้อนให้กับเกษตรกรผู้ปลูกสัปปะรด แก้ไขปัญหาราคาผลผลิตสับปะรดที่มีราคาตกต่ำ โดยให้จัดทำโครงการ "รวมพลัง ไทยช่วยไทย" เพื่อช่วยเหลือเกษตรกรด้วยการรับซื้อสับปะรด ในพื้นที่ภาคกลาง และ พื้นที่ที่ได้รับผลกระทบ ตามนโยบาย ผบ.ทบ. ในโครงการ "รวมพลัง ไทยช่วยไทย"

สำหรับโครงการ "รวมพลัง ไทยช่วยไทย" สามารถช่วยเหลือเกษตรกรผู้ปลูกสับปะรดในพื้นที่ภาคกลาง และพื้นที่ภาคใต้ เพื่อให้ระบายผลผลิตที่มีปริมาณมากซึ่งเกินความต้องการของโรงงานแปรรูป ได้ในราคาที่เหมาะสม

อย่างไรก็ดีส่วนในด้านของ พล.ต.เจษฎา เปรมนิรันดร ผู้บัญชาการกองพลพัฒนาที่ 1 ได้เปิดเผยว่า... ที่ได้เลือกสนับสนุนสับปะรด ในพื้นที่ อ.บ้านคา และอ.สวนผึ้ง จ.ราชบุรี เพราะเนื่องจาก จ.ราชบุรีมีการปลูกสับปะรดมากเป็นอันดับ 2 ของประเทศรองลงมาจาก จ.ประจวบคีรีขันธ์ โดยปีนี้สับปะรดช่วงที่ราคาสูงจะอยู่ที่ประมาณกิโลกรัมละ 15 บาท แต่ปัจจุบันราคาตกลงไปเหลือเพียง กิโลกรัมละ 2-3 บาท จึงเห็นว่าสับปะรดของราชบุรีโดยเฉพาะพันธุ์ที่ปลูกสวนผึ้งเป็นสับปะรดที่มีรสชาติดี หวานฉ่ำกรอบ หอม ที่สำคัญไม่กัดลิ้น เป็นเอกลักษณ์และเหมาะแก่การบริโภคเป็นอย่างยิ่ง ไม่ใช่สับปะรดโรงงาน จึงน่าที่จะทำการตลาดได้ อีกทั้งยังมีราคาถูก เคยไปดูที่ห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง ติดราคาแพงมากถึงลูกละ 60 บาท ถือว่าโชคดีที่อยู่ราชบุรี และหากมีการช่วยกันเผยแพร่ออกไปก็จะเป็นการดีที่จะได้มีโอกาสช่วยเหลือเกษตรกรผู้ปลูกสับปะรดที่กำลังประสบปัญหาผลผลิตล้นตลาดอยู่ในขณะนี้ได้อีกทางหนึ่งด้วย