ครูราชบุรี ผลิตกี่กระตุกขนาดเล็กส่งขายนอกแห่งเดียวในประเทศไทย

ภูมิปัญญาปราชญ์ชาวบ้าน ผลิตกี่กระตุกขนาดเล็กส่งขายนอกแห่งเดียวในประเทศไทย กว่า 16 ปีที่นายจรูญ พาระมี อายุ 70 ปี หรือที่วงการผ้าทอเรียกว่า “อาจารย์จรูญ” ได้ใช้บ้านเลขที่ 6/2 หมู่ ต.ท่าราบ อ.เมือง จ.ราชบุรี เป็นแหล่งผลิตกี่ทอผ้าแบบโบราณส่งขายไปทั่วประเทศไทย และยังดังไกลไปถึงต่างประเทศ ด้วยภูมิปัญญา ความรักในการทอผ้าแล้วพัฒนาต่อยอดให้กี่ทอผ้าแบบโบราณมีความสามารถทอผ้าหลากหลายลวดลายได้รวดเร็วขึ้นและมีขนาดเล็กลง สามารถเคลื่อนย้ายไปสร้างงานในพื้นที่จำกัดอีกด้วย

นายจรูญ พาระมี หรือครูช่างศิลปหัตถกรรม ที่ศูนย์ส่งเสริมศิลปาชีพระหว่างประเทศ(องค์การมหาชน) ให้การยกย่องในฐานะเป็นปราชญ์ชาวบ้านอันทรงคุณค่าของการทอผ้า เผยว่า ตนเองสนใจการทอผ้ามาตั้งแต่ 8 ขวบ เนื่องจากญาติผู้ใหญ่ที่บ้านมีการทอผ้ามานาน ตนพยายามศึกษาเรียนรู้วิธีการทอผ้าทุกขั้นตอน รวมทั้งกี่ทอผ้าแบบโบราณ จนพอมีความรู้ความชำนาญจึงมีการต่อยอดหาวิธีการทอผ้าที่ทันสมัยและเพิ่มขีดความสามารถของกี่ทอให้ทอผ้าได้รวดเร็วขึ้น โดยเฉพาะขนาดของกี่ทอผ้าให้มีความแตกต่าง กะทัดรัด เคลื่อนย้ายได้ ตั้งแต่ 16 นิ้ว ตนเองใช้เวลาเกือบ 16 ปี ในการคิดค้นและแก้ไขข้อบกพร่องของกี่แต่ละขนาดให้เหมาะสมกับการใช้งาน โดยแรกเริ่มได้ผลิตให้กับศูนย์ฯทอผ้าตีนจกที่ ต.คูบัว ก่อนขยายไปยังอีกหลายตำบลใน จ.ราชบุรี กระทั่งมาตั้งฐานการผลิตอยู่ที่ ต.ท่าราบ และได้ให้คนในครอบครัว 4 คน โดยเฉพาะนายมานพ พาระมี อายุ 43 ปี ลูกชายที่รักและสนใจในการทอผ้าเช่นกันเป็นกำลังสำคัญในการผลิตกี่ทอผ้าแบบใหม่ที่ดีที่สุดในประเทศไทยนี้

“กี่ทอผ้ารุ่นแรกๆนั้น ใช้เวลานานกว่าจะทอได้แต่ละผืน โดยเฉพาะส่วนที่เป็นลวดลายตรงชายผ้า ตนเองได้แก้ไขเพิ่มประสิทธิภาพกี่ทอผ้า จากกี่ทอมือซึ่งทอได้ช้าและมีขนาดใหญ่เปลี่ยนมาเป็นกี่กระตุกที่มีขนาดเล็กลงเหลือเพียง 16 นิ้ว แล้วยังมีความเร็วในการทอได้ถึงกว่า 10 เท่า ซึ่งกี่ทอผ้าที่ตนเองผลิตเดิมใช้ต้นทุนประมาณ 3,000 บาท ต่อมามีการแก้ไขข้อบกพร่องส่วนประกอบต่างๆ ก็ใช้ตนทุนอยู่ที่ 7,000 กว่าบาท แล้วจำหน่ายในราคาเพียง 10,000 บาท มีศูนย์ฯทอผ้าตามภาคต่างๆ ทั่วประเทศ โดยเฉพาะสถาบันการศึกษา เช่น มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์รังสิต , มหาวิทยาลัยกรุงเทพ , มหาวิทยาลัยเกษมบัณฑิต และมหาวิทยาลัยศิลปากร วิทยาเขตนครปฐม ให้ตนเองผลิตเพื่อให้นักศึกษาได้เรียนรู้เพื่อการอนุรักษ์ผ้าทอกันอย่างกว้างขวาง แต่ที่ตนเองภูมิใจมากก็คือ เมื่อศูนย์ส่งเสริมศิลปาชีพระหว่างประเทศ(องค์การมหาชน) ให้การสนับสนุนและมีโอกาสได้ไปออกงานประชาสัมพันธ์ จนมีต่างประเทศซื้อกี่ทอผ้าของตนเองไป เช่น ญี่ปุ่น และสหรัฐอเมริกา ซึ่งทางนายมานิต นพอมรบดี อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข รวมทั้งนางจินตนา ศักดิ์สมบูรณ์ นายกองค์การบริหารส่วนตำบลท่าราบ อ.เมืองราชบุรี ที่ทราบเรื่องนี้ก็เป็นห่วงถึงการ ต้องการให้ตนเองทำการจดสิทธิบัตรไว้ เนื่องจากกี่ทอผ้าที่ตนเองผลิตนั้นเกิดจากภูมิปัญญาของโดยแท้ โดยขณะนี้ตนเองกำลังดำเนินการอยู่ นายจรูญ กล่าว.

ทางด้านนายมานิต นพอมรบดี อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข และเป็นคนในพื้นที่ ต.ท่าราบ อ.เมืองราชบุรี กล่าวว่า ตนเองมีโอกาสมาช่วยงานแถวบ้านของนายจรูญและทราบว่าที่นี่เป็นแหล่งผลิตกี่ทอผ้าที่ดีที่สุดในประเทศไทย จึงเข้ามาดูและมีโอกาสพูดคุยกันและเห็นว่า นายจรูญผลิตกี่ขนาดต่างๆ ขึ้นมามากมายมีต่างชาติ เช่น ญี่ปุ่น และอีกหลายประเทศเข้ามาซื้อไป ปัญหาที่ตนเป็นห่วงก็คือ เรื่องสิทธิบัตร ตนเองได้สอบถามนายจรูญถึงเรื่องนี้ แล้วก็ทราบว่ายังไม่มีการจดสิทธิบัตรที่กระทรวงพาณิชย์ ก็เลยเป็นกังวลว่าต่างชาติมาซื้อกี่ของนายจรูญแล้วนำไปจดสิทธิบัตรต่างๆ ก็จะกลายเป็นว่าทางนายจรูญไปลอกเลียนแบบเขา ทั้งที่จริงแล้วนายจรูญเป็นผู้คิดประดิษฐ์กี่ขนาดเล็กหน้า 16 นิ้วนี้ขึ้นมา ซึ่งถือว่าเป็นกี่ชุดแรกในประเทศไทยก็ว่าได้ ตรงนี้ถามว่า การที่นายจรูญคิด ประดิษฐ์ ปรับปรุง และทำกี่ทอผ้าให้กับพื้นที่ต่างๆ ใน จ.ราชบุรี ไม่ว่าจะเป็น ต.คูบัว อ.เมืองราชบุรี ต.รางบัว อ.จอมบึง ต.บ้านไร่ รวมทั้ง อ.สวนผึ้ง ทั่วจังหวัดแบบนี้ โดยเฉพาะผ้าทอคูบัวที่มีชื่อโด่งดังมานานแต่น้อยคนนักที่จะรู้ถึงเบื้องหลังว่า กี่ทอผ้าเหล่านั้นมาจากฝีมือการคิดค้นและประดิษฐ์ของนายจรูญ

อย่างไรก็ดี นายจรูญ พาระมี ครูช่างศิลปหัตถกรรม ได้กล่าวว่า กว่า 16 ปี นอกจากตนเองจะเป็นช่างผลิตกี่ทอผ้าแล้ว ตนเองยังได้เดินทางไปเป็นวิทยากรให้ความรู้แก่หน่วยงาน และสถานศึกษาจำนวนมากโดยไม่เคยคิดหวงวิชาใดๆ เนื่องจากต้องการให้ความรู้เรื่องการทอผ้านี้คงอยู่ไปชั่วลูกชั่วหลานต่อไป ซึ่งผู้ที่สนใจกี่ทอผ้าโบราณที่มีขนาดเล็กและแห่งเดียวในประเทศไทยสามารถเยี่ยมชมและเรียนรู้ได้ โดยเดินทางมายังบ้านเลขที่ 6/2 หมู่ ต.ท่าราบ อ.เมือง จ.ราชบุรี หรือโทร.08 3105 5771