สลดหญิงป่วยซึมเศร้า เดินให้รถไฟชนเสียชีวิต

เมื่อเวลา 07.30 น. วันที่ 24 ส.ค.63 ร.ต.ท.เต็มยศ สอนกระต่าย รองสว.(สอบสวน)สภ.โพธาราม ได้รับแจ้งเหตุพบศพหญิงนอนเสียชีวิตอยู่บนรางรถไฟ บริเวณเส้นทางเดินรถไฟจุดตัดถนนบ้านหม้อ ม.6 ต.คลองตาคต อ.โพธาราม จ.ราชบุรี จึงรุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อมแพทย์เวรโรงพยาบาลโพธาราม และเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยสว่างราชบุรี ในที่เกิดเหตุพบศพหญิง 1 ราย นอนเสียชีวิตอยู่บนกลางร่องรางรถไฟ สวมเสื้อเชิ้ตแขนสั้นสีน้ำเงินและสวมกางเกงผ้าสีขาว ห่างออกไปประมาณ 200 เมตร พบตะกร้าพลาสติก กระเป๋าใส่เสื้อผ้า และรองเท้าของผู้เสียชีวิตวางอยู่ริมถนน และทราบชื่อผู้เสียชีวิตต่อมาคือ น.ส.หรรษา เข้มแข็ง อายุ 56 ปี บ้านเลขที่ 78 หมู่ที่ 6 ต.คลองตาคต เจ้าหน้าที่จึงให้นำศพของผู้เสียชีวิตออกจากรางรถไฟ เนื่องจากขบวนรถไฟไม่สามารถเดินรถได้

จากการสอบถาม น.ส.อมรรัตน์ สุขศิริ อายุ 41 ปี หลานสาวของผู้เสียชีวิต เล่าว่า ผู้ตายเป็นน้าสาวของตน และเป็นโรคซึมเศร้า ที่ผ่านมาผู้ตายจะชอบไปนั่งสมาธิ กรรมฐาน และชอบถามตนและญาติอยู่บ่อยครั้ง ว่าเชื่อเรื่องบุญเรื่องกรรมไหม และยังถามอีกว่า เชื่อไหมว่าจะมีคนมาเอาตัวน้าไป ซึ่งทุกคนไม่เชื่อแต่ก็ไม่ได้พูดว่าไม่ได้เชื่อออกไป จนเมื่อคืนตนเจอน้าสาวครั้งสุดท้ายตอนเวลาสามทุ่มครึ่ง ใส่ชุดนั่งวิปัสสนากรรมฐานเดินผ่านหน้าบ้านของตน จึงถามน้าสาวไปว่า ไม่ได้ไปวัดหรือ น้าสาวก็ตอบมาว่าไปกลับมาแล้ว หลังจากนั้นตนก็ปิดบ้านนอน และไม่รู้ว่าน้าสาวออกไปตอนไหนเวลาไหนอีก จนเวลา 07.00 น. มีเพื่อนบ้านมาบอกตนว่าน้าสาวถูกรถไฟชนตาย ตนจึงรีบบอกญาติๆ และรีบออกไปดูศพน้าสาว

น.ส.อมรรัตน์ สุขศิริ เล่าอีกว่า ก่อนหน้านี้น้าสาวได้เขียนจดหมายลาตายไว้หลายใบ และเอามามอบให้ญาติทุกคนดู แต่ตนไม่เห็นเนื้อข้อความเพราะคิดว่า น้าสาวจะพูดเล่น ซึ่งตนเห็นเป็นลางไม่ดีจึงนำไปทิ้ง ซึ่งตนไม่คาคคิดว่าน้าสาวจะฆ่าตัวตาย  จนเมื่อวันที่ 19 ส.ค. น้องชายของตนได้เสียชีวิตลง และกำลังจัดงานศพอยู่ที่วัดจนเมื่อวันที่ 21 ส.ค. น้าสาวได้บอกกับตนว่า เชื่อเรื่องบุญเรื่องกรรมไหม จะมีคนเอาน้าไปอีกคนนะ จะมีการตายเกิดขึ้นอีก ก่อนจะมาพบศพของน้าสาวเสียชีวิตอยู่บนรางรถไฟ ซึ่งตนและญาติทุกคนไม่ติดใจในการเสียชีวิตของน้าสาว

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่สันนิษฐานว่า น.ส.หรรษา เข้มแข็ง ผู้เสียชีวิต อาจคิดมากจึงคิดมากเรื่องโรคประจำตัวและเรื่องหลานชายที่เสียชีวิตจึงคิดฆ่าตัวตาย เพราะเนื่องจากผู้ตายได้บอกและเขียนจดหมายลาตายให้กับญาติไว้หลายฉบับ แต่ทางญาติไม่คิดว่าผู้ตายจะก่อเหตุขึ้นจริง ซึ่งทางเจ้าหน้าที่จะได้ทำการสอบสวนอย่างละเอียดอีกครั้ง ส่วนญาติผู้เสียชีวิตไม่ได้ติดใจการเสียชีวิต จึงได้มอบร่างผู้เสียชีวิตให้กับญาติเพื่อนำศพไปบำเพ็ญกุศลตามประเพณีต่อไป.