“นส.กุลวลี นพอมรบดี” หรือน้องแคมป์ ผู้สมัคร ส.ส. เขต 1 ราชบุรี พรรคพลังประชารัฐ ร่ำไห้กลางเวทีปราศรัยหลังประธานชมรมผู้พิการมอบภาพ “แม่กอบกุล” เป็นกำลังใจ
เมื่อเวลา 19.00 น. วันที่ 19 มี.ค.62 ที่บริเวณริมเขื่อนรัฐประชาพัฒนา ถนนวรเดช เขตเทศบาลเมืองราชบุรี ได้มีการตั้งเวทีปราศรัยใหญ่ของ นส.กุลวลี นพอมรบดี ผู้สมัคร ส.ส.เขต 1 ราชบุรี พรรคพลังประชารัฐ เบอร์ 9 ตัวเต็งอีกหนึ่งเบอร์ใน ส.ส.เขต 1 ของจังหวัดราชบุรี โดยมีชาวบ้านมานั่งฟังประมาณกว่า 2,000 คน ช่วงแรกของการปราศรัย นายมานิต นพอมรบดี อดีตส.ส.ราชบุรี และเป็นอดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข ผู้เป็นบิดาของ นส.กุลวลี ได้ขึ้นเวที กล่าวถึงผลงานที่เคยทำให้กับจังหวัดราชบุรี เมื่อครั้งเป็นส.ส.และรัฐมนตรีช่วย ฯ พร้อมกล่าวว่าหาก นส.กุลวลี ลูกสาวได้เป็น ส.ส. จะให้ดำเนินรอยตามพื้นฐานที่ นางกอบกุล นพอมรบดี ผู้เป็นแม่เคยได้ทำความเจริญไว้ให้กับจังราชบุรี เช่นจะก่อสร้างสะพานข้ามแยกนิสสัน ถนนเพชรเกษม ให้เชื่อมต่อเป็นวงแหวน จะทำให้การสัญจรสะดวกมากยิ่งขึ้น และกล่าวว่าที่ตนไม่ลงสมัครด้วยตนเอง เพราะอายุ 64 ปี แต่ร่างกายยังแข็งแรง อยากให้ลูกสาวที่อายุ 33 ปี ซึ่งเป็นเด็กรุ่นใหม่เข้ามาทำงานการเมือง ตนขอเป็นที่ปรึกษาจะใช้ประสบการณ์ช่วยงานลูกสาวอย่างเต็มที่
จากนั้น นส.กุลวลี นพอมรบดี ขึ้นเวทีปราศรัย เรียกเสียงปรบมือต้อนรับจากชาวบ้านดังสนั่น โดย นส.กุลวลี พูดถึงนโยบายของพรรคพลังประชารัฐ เรื่องการทำบัตรสวัสดิการฯ โดยเฉพาะให้กับผู้พิการ และผู้สูงอายุ เพื่อลดความเหลื่อมล้ำทางสังคม จะมีเบี้ยยังชีพให้ผู้พิการเพิ่มขึ้น จะมีเงินกองทุนผู้สูงอายุ มีการฝึกอาชีพ และโครงการมารดาประชารัฐ พรรคพลังประชารัฐจะมีสวัสดิการให้ตั้งแต่อยู่ในครรภ์ จนคลอด และสนับสนุนถึง 6 ขวบ เฉลี่ยรวมคนละ 1 แสน 8 หมื่นบาท การพักหนี้กองทุนหมู่บ้าน 3 ปี และการสนับสนุนธุรกิจสตาร์ทอัพ การใช้นวัตกรรมใหม่ๆมาเพิ่มมูลค่าสินค้า
กระทั่งมาถึงช่วงท้ายของการปราศรัย ซึ่งถือเป็นไฮไลท์ นส.กุลวลี นพอมรบดี ได้เล่าถึงสมัยที่ยังเด็ก ได้เห็น นางกอบกุล นพอมรบดี อดีตส.ส.ราชบุรี ผู้เป็นมารดาที่ถูกยิงเสียชีวิต ทำงานการเมืองและเมื่อออกหาเสียงครั้งนี้มีชาวบ้านได้พูดคุยถึงผลงานที่มารดาทำไว้ ระหว่างปราศรัยช่วงนี้นางสาวกุลวลี ได้หยุดพูดเป็นช่วงๆ เพราะต้องสะอื้น ร่ำไห้ ทำเอาบรรยากาศเงียบสงัด บรรดาชาวบ้านที่มาฟังการปราศรัย ต่างเริ่มน้ำตาคลอตามไปด้วย โดยเฉพาะช่วงที่ นายภินภัคร ปานณรงค์ อายุ 68 ปี ผู้พิการขาขาดทั้ง 2 ข้าง และเป็นประธานชมรมผู้พิการ ต.เจดีย์หัก อ.เมืองราชบุรี ได้นั่งรถเข็นมาหน้าเวทีพร้อมนำภาพถ่าย นางกอบกุล อดีต ส.ส.ราชบุรี ทำเป็นภาพคู่กับ นส.กุลวลี และมีหมายเลข 9 เหมือนกัน อัดภาพใส่กรอบมามอบให้ นส.กุลวลี เพื่อเป็นกำลังใจ ถึงตอนนี้ นส.กุลวลี ยิ่งร่ำไห้จนน้ำตาไหลพราก พร้อมกันนั้นมีชาวบ้านกรูเข้ามาโอบกอดนางสาวกุลวลี แล้วต่างก็ร่ำไห้ทำเอาบรรยากาศยิ่งเศร้าสลด
นายภินภัคร ปานณรงค์ กล่าวว่าที่ทำภาพถ่ายมาให้เพื่อเป็นกำลังใจกับ นส.กุลวลี เนื่องจากเมื่อปี 2548 นางกอบกุล อดีตส.ส.ราชบุรี มารดานางสาวกุลวลี เคยสมัครส.ส.ราชบุรี ได้เบอร์ 9 คราวนี้ นส.กุลวลี สมัครส.ส.ก็ได้เบอร์ 9 เช่นกัน จึงขอให้สู้ๆต่อไป ทำงานการเมืองให้สำเร็จมีผลงานที่ดีเหมือนสมัยมารดาทำไว้ นอกจากนี้ระหว่างบรรยากาศเศร้าสลดนั้น ได้มีนายไพศาล พลกิจ อายุ 76 ปี อดีตข้าราชการ สนง.ศึกษาธิการจังหวัดราชบุรี นั่งรถเข็นมาอวยพรให้กำลัง นส.กุลวลี และยังมีเด็กชาย นภดล อ่วมอิ่ม อายุ 11 ปี บ้านอยู่ ต.หลุมดิน อ.เมืองราชบุรี เดินมาหา นส.กุลวลี ที่กำลังร่ำไห้ พร้อมกับยื่นขนมข้าวเกรียบว่าวให้ ซึ่งเด็กชายนภดล บอกว่านำขนมว่าวมาให้ นส.กุลวลี ในหลายสถานที่ตั้งแต่ต้นปี 62 รวม 7 ครั้งแล้ว เพราะจดจำไม่ลืมว่า นส.กุลวลี เคยช่วยเหลือครอบครัวของตนเองไว้และอยากมอบขนมให้เพื่อเป็นกำลังใจ