ความคืบหน้าจังหวัดราชบุรี เร่งนำสารเคมีที่มีผู้ลักลอบนำมาทิ้งริมอ่างเก็บน้ำไปกำจัด (มีคลิป)

จากกรณีเมื่อวันที่ 21 พ.ค.(ที่ผ่านมา) นายไพฑูรย์ ปัตนา นายก อบต.น้ำพุ พร้อมเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบที่ริมอ่างเก็บน้ำห้วยสำนักไม้เต็ง ม.2 ต.น้ำพุ อ.เมือง จ.ราชบุรี หลังจากได้รับแจ้งจากชาวบ้านที่มาตกปลาอยู่บริเวณอ่างเก็บน้ำว่ามีคนนำสารเคมีมาเททิ้งในป่าละเมาะส่งกลิ่นเหม็นโชยทั่วบริเวณ โดยสามารถควบคุมตัวผู้กระทำความผิดได้ 3 นาย คือนายสุรศักดิ์ นาคทับ อายุ 21 ปี คนขับ นายสุภกิจ มณีโชติ อายุ 21 ปี และนายเริงชัย เงินยวง อายุ 21 ปี และสามารถยึดรถกระบะอีซูซุสีน้ำตาล ทะเบียน บน 6378 พิจิตร พร้อมถังน้ำมันขนาด 200 ลิตรซึ่งบรรจุสารเคมี จำนวน 16 ถัง
     

ทั้งนี้จากการสืบสวน นายสุรศักดิ์ ให้การว่าตนเองพร้อมเพื่อนเป็นลูกจ้างของนายตั้ม ได้สั่งให้เข้าไปขนถังสารเคมีจากโกดังภายในโรงงานกำจัดกากขยะอุตสาหกรรม ของบริษัท แวกซ์ กาเบ็จ รีไซเคิล เซ็นเตอร์ เพื่อนำมาทิ้งที่บริเวณนี้ โดยครั้งแรกนายตั้ม เป็นคนพามาชี้จุดในการทิ้ง ครั้งนี้เป็นครั้งที่ 2 และไม่ทราบว่าเป็นสารเคมีที่อันตราย จากนั้นก็จะนำถังส่งขายร้านรับซื้อของเก่า ทั้งนี้บริเวณดังกล่าวเป็นริมอ่างเก็บน้ำสำนักห้วยไม้เต็ง เมื่อมีฝนตกลงมาก็จะชะล้างสารเคมีลงสู่อ่างเก็บน้ำได้โดยง่าย ซึ่งสารเคมีดังกล่าวสามารถทำลายสิ่งแวดล้อมและระบบนิเวศเป็นวงกว้างถ้ามีฝนตกลง

(คลิปในข่าว)

ซึ่งความคืบหน้าทาง นายชยาวุธ จันทร ผู้ว่าราชการจังหวัดราชบุรี ได้เรียกประชุมหย่วยงานที่เกี่ยวข้องในช่วงเช้าของวันที่ 22 พ.ค. เพื่อหาทางดำเนินการแก้ไขและดำเนินทางคดีกับผู้ประกอบการที่กระทำความผิดดังกล่าวฯ และมอบหมายให้ นายอริยะ  เนตรวงษ์  หัวหน้าฝ่ายโรงงานอุตสาหกรรมจังหวัดราชบุรี  ได้นำเจ้าหน้าที่รวมทั้งบริษัทเอกชนที่รับกำจัดสารเคมีอันตรายไปตรวจสอบในที่เกิดเหตุ  ซึ่งมีการกันพื้นที่ดังกล่าวให้เป็นพื้นที่อันตราย ห้ามบุคคลที่ไม่เกี่ยวข้องเข้าไป  และเตรียมให้ทางบริษัทเอกชนได้ทำการนำสารที่ยังขังอยู่บนผิวดิน  และซึมลงในดินนำไปกำจัด  โดยเบื้องต้นจะต้องนำผ้าใบมาปิดทับไว้เพื่อไม่ให้น้ำฝนนั้นไปชะล้างสารเคมีและไหลลงไปในอ่างเก็บน้ำ  เนื่องจากน้ำในอ่างนั้นมีการนำไปในการทำน้ำประปาหมู่บ้านและนำไปใช้ในการเกษตร  และให้นำทรายมาคลุกผสมกันจนกว่าสารเคมีจะแห้งก่อนจะตักใส่รถไปกำจัด  ซึ่งมีค่าใช้จ่ายที่ค่อนข้างจะสูง  แต่ทางจังหวัดจะเป็นผู้ดำเนินการออกให้  ส่วนการตรวจสอบว่าเป็นสารเคมีอันตรายหรือไม่นั้นขณะนี้ได้ทำการเก็บตัวอย่างไปแล้ว  และให้ทางพนักงานสอบสวนได้ดำเนินการสอบผู้ต้องหาทั้งหมดก่อน  เพื่อจะได้รู้ที่มาของสารว่ามาจากไหน

ล่าสุด ทาง อบต.น้ำพุ ได้ร่วมกับอุตสาหกรรมจังหวัดราชบุรี ได้นำรถตักแม็คโครขุดตักพื้นผิวดินบริเวณที่มีผู้แอบเอาสารเคมีมาเททิ้ง โดยขุดตักเป็นวงกว้าง 10 คูณ 15 เมตร ลึกประมาณ 3 เมตรเศษ โดยมีประมาณ 150 ตัน และทยอยนำไปกำจัดที่บริษัทเอกชนที่รับกำจัดสารเคมีอันตรายนอกพื้นที่ ครั้งละ 30 ตัน โดยส่วนที่เหลือจากการรอไปกำจัด ทางผู้ว่าราชการจังหวัดราชบุรี ได้ให้ทางสำนักงานชลประทาน สำนักห้วยไม้เต็ง เป็นผู้เก็บรักษาไว้เพื่อรอการนำไปกำจัด โดยให้ผู้พื้นผ้ายางและคุมผ้ายางปิดทับดินที่ขุดขึ้นมา เพื่อป้องกันกรณีหากเกิดฝนตกและมีการชะล้างลงพื้นดิน

จนเมื่อวันที่ 29 พ.ค. ได้เกิดฝนตกลงมาอย่างหนัก ทางผู้ว่าราชการจังหวัดราชบุรี จึงได้มีคำสั่งให้ทาง สำนักงานสิ่งแวดล้อมภาคที่ 8 (ราชบุรี) และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าตวรจสอบพื้นที่เก็บสารเคมีที่ตักขึ้นมาดังกล่าว เพราะเกรงจะเกิดการชะล้างสารเคมีลงพื้นดิน โดยทาง จนท.สำนักงานสิ่งแวดล้อมภาคที่ 8  ได้นำเครื่องมือชุดตรวจวัดความเข้มข้นและไอระเหยของแก็ส Gas Detecion Tubes ใช้ตรวจวัดคุณภาพอากาศในสิ่งแวดล้อม โดยจากการตรวจสอบเบื้องต้นค่าวัดคุณภาพอากาศไม่เกินที่กำหนด โดย จนท.สำนักงานสิ่งแวดล้อมภาคที่ 8 จะทำรายงานส่งผู้ว่าราชการจังหวัดราชบุรีต่อไป

/////////////////////////////////////////

ภาพ/ข่าว : #ทีมข่าวสมาคมสื่อมวลชนราชบุรี

ติดตามข่าวสารในจังหวัดราชบุรีได้ที่ : https://www.facebook.com/groups/1872087123081525/
หรือที่นี้ : https://www.facebook.com/groups/1881043855509766/?ref=bookmarks

/////////////////////////////////////////////////////////////