สาวราชบุรี ถูกหลอกขายตัวต่างประเทศ ยืนยันยังมีหญิงไทยที่ถูกหลอกหลายอีกหลายคน

สาวราชบุรี ร้องให้ช่วยหญิงไทยที่ถูกหลอกไปขายตัวที่ต่างประเทศ หลังตัวเองก็โดนด้วย พอรู้ตัววางแผนหนีออกมาได้

ในวันนี้( 12 เม.ย. 62) นางสาวอ้อ (นามสมมุติ)  อายุ  36 ปี   หญิงสาวชาว ต.เขาแร้ง อ.เมือง จ.ราชบุรี ได้เดินทางเข้าพบกับ พ.ต.อ.อภิชาติ   พุทธบุญ  ผกก. สภ.เมืองราชบุรี  เพื่อขอให้ช่วยประสานไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้เข้าช่วยเหลือหญิงไทยที่ถูกหลอกไปทำงานที่ประเทศสิงค์โปร์  แต่กลับให้ขายตัวแทน    ซึ่งตนเองนั้นก็โดนมาในลักษณะนี้ด้วย  แต่สามารถหนีกลับมาได้  โดยหญิงสาวรายนี้ได้เล่าเหตุการณ์ให้ฟังว่า มีเพื่อนหญิงคนหนึ่งชื่อว่า แพน  ได้มาชักชวนให้เดินทางไปทำงานที่ต่างประเทศ  โดยเห็นมีการประกาศหาคนทำงานเป็นเด็กเสริ์ฟ  และไปนวด ที่ต่างประเทศมีรายได้ดีในเฟสบุ๊คชื่อ  Tuck Mãrquez  ซึ่งเพื่อนก็ลองติดต่อไปแล้วและพบว่ามีการประกาศรับสมัครจริง  และไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆโดยทางคนที่เป็นนายหน้านั้นจะออกให้ทั้งหมด   จึงได้มาชักชวนและเมื่อตนตรวจสอบตามเฟสดังกล่าวแล้วก็พบว่าไม่น่าจะเป็นการหลอกลวง  จึงได้ร่วมเดินทางไปกับเพื่อนรวม 3 คนเพื่อจะไปทำงาน 

โดยออกเดินทางจากท่ารถสายใต้ กรุงเทพฯไป อ.หาดใหญ่  จ.สงขลา ในวันที่ 3 เม.ย.62  หลังจากนั้นก็มีคนมารับและพาไปที่ประเทศสิงคโปร์   แต่พอไปถึงกลับถูกหลอกให้ไปขายบริการทางเพศแทน  โดยมีหญิงไทยหลายคนอยู่ที่นั่นด้วย  ซึ่งเมื่อสอบถามหญิงสาวเหล่านั้นก็พบว่าทุกคนอยากกลับประเทศไทย  แต่กลับไม่ได้  เนื่องจากถูกตำรวจที่ประเทศดังกล่าวจับกุม และยึดพาสสปอร์ตไว้  ซึ่งตนกับเพื่อนทำงานได้เพียง 4 วัน  โดยได้ค่าตัววันละ 700 กว่าบาท  แต่ก็ถูกนายหน้าที่ดูแลสถานที่ทำงานยึดไปหมด   โดยอ้างว่าเป็นค่าใช้จ่ายในช่วงที่เดินทางมาทำงาน  เมื่อใช้หนี้หมดก็จะจ่ายเงินค่าแรงให้  แต่ในช่วงที่ทำงานนั้นพวกตน 3 คน ทนไม่ไหว  จึงได้ออกอุบายขอให้ รปภ.ของโรงแรมที่ทางนายหน้าเช่าให้พัก  เรียกแท็กซี่ให้  โดยอ้างว่าเพื่อนปวดท้องหนักจะให้พาหาหมอ  ซึ่งเมื่อนั่งแท็กซี่ออกมาก็เลยหนีมาได้  โดยตนกลับมาประเทศไทยคนเดียว ส่วนเพื่อนอีกสองคนนั้นได้รู้จักกับผู้หญิงไทยคนหนึ่งที่พักอยู่ในโรงแรมอีกแห่งหนึ่งของประเทศสิงคโปร์นั้นได้ชักชวนให้เป็นเด็กเสริ์ฟของโรงแรม  ซึ่งไม่ได้ขายตัวเหมือนที่ทำงานเดิม   จึงได้ขออยู่ทำงานเก็บเงินสักพัก  ส่วนตนเองนั้นไม่ขออยู่  จึงเดินทางกลับมาและมาขอคำปรึกษาจาก พ.ต.อ.อภิชาติ  พุทธบุญ  ผกก.สภ.เมือง  เพื่อขอให้ติดต่อประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้เข้าไปช่วยเหลือหญิงไทยอีกกว่า 10 คนที่ยังทำงานขายตัวที่ประเทศดังกล่าวด้วย

ด้าน พ.ต.อ.อภิชาติ  ก็บอกว่าตอนนี้ขอสอบสวนอย่างละเอียดก่อน  เนื่องจากดูแล้วว่าน่าจะเป็นความสมัครใจ   และการกลับมาได้ก็เป็นการกลับมาแบบปกติ  ซึ่งจะต้องดูว่าการเข้าเมืองนั้นถูกต้องหรือไม่  เพราะมีการบอกว่ามีหญิงไทยถูกจับอยู่หลายคน  ซึ่งอาจจะเป็นขบวนการทางกฎหมายของประเทศเขา  ซึ่งถ้าเข้าไม่ถูกต้องก็จะต้องถูกดำเนินการ  ส่วนนางสาวอ้อ นั้นมีหลักฐานถูกต้องจึงไม่ถูกจับกุม    ส่วนกระบวนการอื่นๆก็จะต้องให้ทางพนักงานสอบสวนได้ดำเนินการสอบปากคำก่อนว่าจะเข้าข้อไหนได้บ้าง  ซึ่งจะต้องให้พนักงานสอบสวนหญิงได้มาสอบเพราะเป็นกระบวนการสอบสวนทางเพศ  ซึ่งจะต้องสอบสวนให้ละเอียด ส่วนเรื่องเฟสบุ๊คที่มีการกล่าวอ้างนั้นก็จะต้องใช้เวลาในการสอบ  ซึ่งเมื่อได้ข้อมูลก็จะส่งเรื่องให้ทางตำรวจปราบปรามการค้ามนุษย์(ปคม.)  ได้ดำเนินการต่อไป