ขยายศาสตร์พระราชา "โครงการดิจิทัลชุมชนด้าน e-Commerce"

ในพื้นที่ประเทศไทยกว่า 70,000 หมู่บ้าน พบว่า เกินกว่าร้อยละ 50 หรือประมาณกว่า 40,000 หมู่บ้าน อยู่ในพื้นที่ไม่มีศักยภาพเชิงพาณิชย์และไม่มีบริการอินเตอร์เน็ตความเร็วสูง ซึ่งมี 3,920 หมู่บ้าน ไม่มีบริการอินเตอร์เน็ตและยากต่อการเข้าถึง ทำให้รัฐบาลวางแผนพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านเทคโนโลยีสารสนเทศที่มุ่งเน้นยกระดับการให้บริการอินเตอร์เน็ตความเร็วสูงในหมู่บ้านอย่างเร่งด่วน ในเบื้องต้น บริษัท ทีโอที จำกัด (มหาชน) ได้ส่งมอบการติดตั้งอินเตอร์เน็ตในหมู่บ้านแล้ว 11,250 หมู่บ้าน แล้วจะทยอยดำเนินการส่วนที่เหลือต่อไป ควบคู่กับการทำโครงการดิจิทัลชุมชนด้าน e-Commerce โดย บริษัททีโอที จำกัด (มหาชน) และ บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด เพื่อส่งเสริมให้ชุมชนขายสินค้าและบริการของท้องถิ่นในรูปแบบออนไลน์ได้ในอนาคต โดยได้สำรวจร้านค้าในชุมชน ประเมินความพร้อมของจุดรับลงทะเบียนสินค้า และคำสั่งซื้อสินค้าครอบคลุมทุกจังหวัดทั่วประเทศแล้ว จากนี้จะเริ่มพัฒนา “ระบบ e-Market Place กลาง” ที่จะเป็นฐานข้อมูลสินค้าชุมชน ซึ่งภาคเอกชนและร้านค้ารายน้อยใหญ่จะสามารถเลือกเชื่อมโยงข้อมูลสินค้าดังกล่าวไปวางขายในพื้นที่ e-Market Place ของตนเองได้

รัฐบาล จะเร่งพัฒนาระบบบริหารจัดการร้านค้า (Point of Sale) , ระบบ e-Logistics ที่เชื่อมโยงกับระบบ Prompt Pay คนไทยเริ่มคุ้นเคยมากขึ้นแล้ว และระบบ e-Payment ซึ่ง ไปรษณีย์ไทย ใช้อยู่ในเว็บไซต์ “ไทยแลนด์-โพส-มาร์ท” (www.thailandpostmart.com) คาดว่า จะช่วยให้ประชาชนในพื้นที่ห่างไกลได้ขายสินค้าของตนเองได้โดยตรงสู่ผู้บริโภคและร้านค้าขนาดใหญ่ ทั้งผลิตผลทางการเกษตร สินค้า OTOP สินค้าพื้นบ้าน สินค้าประจำท้องถิ่น ส่วนใหญ่เป็นศิลปหัตถกรรมที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว เช่น สินค้า GI โดย พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า โครงการดิจิทัลชุมชนด้าน e-Commerce เป็นอีกช่องทางการจำหน่ายสินค้าสร้างรายได้ให้ประชาชน เพื่อให้ทุกชุมชนช่วยกันสร้างความเข้มแข็งให้กับเศรษฐกิจประเทศตั้งแต่ระดับของตนเองไปจนถึงระดับชาติ ถือเป็นห่วงโซ่คุณค่าเดียวกัน ที่เกิดความยั่งยืนตามแนวทาง “เศรษฐกิจ 4.0”

"ระยะยาวรัฐบาลได้ยกร่างแผนปฏิบัติการดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมระยะ 5 ปี พ.ศ. 2560 - 2564 และร่างแผนพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์แห่งชาติระยะ 5 ปี พ.ศ. 2560 - 2564 คงไม่ใช่เรื่องที่ยากหากทุกฝ่ายร่วมมือกันหาหนทางปฏิบัติให้ได้และถ้ามีอะไรเกิดขึ้นเราก็สามารถปรับปรุงเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลาตามสถานการณ์โลก สถานการณ์ภายในและภายนอกทั้งนี้ ได้สั่งการให้ทุกกระทรวงที่เกี่ยวข้องเตรียมแผนงานการใช้ประโยชน์จากโครงสร้างพื้นฐานด้านโทรคมนาคมที่คู่ขนานกันไปด้วย เพื่อให้สามารถใช้ประโยชน์ได้ทันทีไม่อย่างนั้นพอสร้างเสร็จแล้วต้องใช้เวลาอีกระยะหนึ่งดำเนินการต่อผมให้คิดไปพร้อมกันเลย เมื่อติดได้ครบแล้วไปใช้ประโยชน์อย่างที่เราต้องการได้" นายกรัฐมนตรี กล่าว.

การพัฒนาดิจิทัลชุมชนระดับหมู่บ้านจะเกิดการสร้างรายได้ผ่านธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ (e-Commerce) ตามนโยบายรัฐบาลไทยแลนด์ 4.0 มุ่งเน้นการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศ ลดความเหลื่อมล้ำสร้างรายได้ และยกระดับคุณภาพชีวิตชุมชนทั่วประเทศ โดยเฉพาะมีเครือข่ายอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงครอบคลุมและเข้าถึงทุกหมู่บ้านให้ประชาชนสามารถใช้บริการได้อย่างเท่าเทียมกันที่เน้นการทำธุรกิจ e-Commerce ชุมชน เพิ่มขีดความสามารถการนำสินค้าที่มีคุณภาพมาซื้อขายข้ามภูมิภาค โดยอาศัยศักยภาพของไปรษณีย์ไทยที่มีเครือข่ายสาขาที่ทำการไปรษณีย์กระจายอยู่ทั่วประเทศกว่า 5,000 แห่ง