ออกมาแจง... คนขับรถตู้ไม่ได้หลอก แต่เป็นเหตุเข้าใจผิด

จากกรณีที่มีชายขับรถตู้โดยสารมารับนักเรียนหญิงอายุ 12 ปีที่หน้า ร้านไก่ต้มน้ำปลา ริมถนนแสงชูโต ต.ท่าผา  อ.บ้านโป่ง  จ.ราชบุรี แต่นักเรียนหญิงไม่กล้าขึ้นรถเนื่องจากไม่ใช่คนขับที่มารับประจำ และเมื่อโทรศัพท์สอบถามไปยังคนขับที่มารับประจำก็ได้รับคำตอบว่าไม่ได้ให้ใครไปรับแทน ทำให้เด็กหวาดกลัวและแจ้งผู้ปกครองให้ทราบก่อนจะไปแจ้งความไว้ที่สภ.บ้านโป่ง เนื่องจากเกรงว่าอาจมีการประสงค์ร้ายต่อเด็กนั้น

ล่าสุดเมื่อวันที่ 29 พ.ค. พ.ต.อ.ณรงค์เดชศ์   ศักดิ์สมบูรณ์ รอง ผบก.รรท.ผกก.สภ.บ้านโป่ง พร้อมด้วย นายทรงยศ อรัญยกานนท์ นายกเทศมนตรีเมืองท่าผา เจ้าหน้าที่พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์   จ.ราชบุรี  ตำรวจ ทหาร และฝ่ายปกครอง ลงพื้นที่เกิดเหตุบริเวณร้านไก่ต้มน้ำปลาเจ๊สมหมาย เพื่อพูดคุยกับนางเขมิกา กำเนิดแจ้ง ผู้ปกครองของเด็กหญิง พร้อมเชิญตัว นายศราวุธ สวัสดี เป็นเจ้าของรถตู้ และ นายสมชาย ม่วงกรับ คนขับรถ มาชี้แจงต่อสื่อมวลชนว่าเป็นเรื่องเข้าใจผิดกันระหว่างฝ่ายเด็กนักเรียนและผู้ประกอบการรถรับส่งนักเรียน

พ.ต.อ.ณรงค์เดชศ์   กล่าวว่า หลังจากเจ้าหน้าที่ตำรวจได้มีการตรวจสอบหมายเลขทะเบียนดังกล่าว ก็พบว่าเป็นรถตู้ที่ประกอบกิจการรถรับส่งนักเรียนเส้นทาง บ้านโป่ง - นครปฐม ซึ่งในวันนั้น นายสมชายจะต้องมารับนักเรียนหญิงคนหนึ่งที่หน้าวัดลูกแก จ.กาญจนบุรี แต่เนื่องจากนายสมชายเพิ่งมาทำหน้าที่ขับเป็นวันที่ 4 ของการทำงาน จึงจำผิดคิดว่าเป็นหน้าวัดโกสินารายณ์ และเป็นจังหวะเดียวกันกับที่เห็นเด็กหญิงกำลังยืนคอยรถอยู่ จึงขับรถเข้าไปจอดรับจนเป็นเหตุให้เข้าใจผิด

ด้าน นายสมชาย คนขับรถ เปิดเผยว่า หลังจากที่เปิดประตูให้เด็กขึ้นรถ ก็รู้สึกผิดสังเกต เนื่องจากเด็กหญิงไม่ยอมขึ้นรถ ซ้ำยังเดินหนี พร้อมกับโทรศัพท์พูดคุยกับคนขับรถอีกคน ต่อมาก็มีชายเจ้าของร้านขายไก่ออกมาพูดคุยและถ่ายรูปทะเบียนรถ ตนจึงเดินกลับขึ้นรถแล้วโทรหาเจ้านาย ทำให้ทราบว่าจอดรับเด็กผิดคน จึงขับรถออกไปรับเด็กนักเรียนคนอื่นตามปกติ และไม่ได้กล่าวอะไรกับเด็กหญิงที่ไปรับผิด ทั้งนี้อยากกล่าวขออภัยกับทุกฝ่ายถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยเฉพาะครอบครัวของเด็กหญิงที่ไม่ได้เข้ามาชี้แจงก่อนหน้านี้จนทำให้เรื่องบานปลาย

สำหรับนางเขมิกา มารดาของเด็กหญิง กล่าวว่า เหตุการณ์เข้าใจผิดดังกล่าวถือเป็นเรื่องดีที่ไม่มีเรื่องร้ายแรงเกิดขึ้น อีกทั้งยังเป็นการสอนให้เด็กรู้จักระวังตัว ป้องกันตัวจากบุคคลแปลกหน้า แต่ส่วนตัวก็ยังไม่เชื่อว่าจะใช่รถตู้คันเดียวกันหรือไม่ ซึ่งคงจะต้องให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการพิสูจน์ต่อไป